สวัสดีครับ สมาชิก Bearded Dragons R US ทุกๆท่าน วันนี้ผมมีเรื่องที่น่าสนใจอยากจะนำเสนอ... ปัญหาเรื่องการเจ็บป่วยถือเป็นปัญหาโลกแตกที่สมาชิกหลายท่านไม่ทราบสาเหตุ หรือวิธีป้องกันและหนทางในการรักษา ผมจึงอยากจะขอแบ่งปันข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์โดยตรงในการป้องกัน และเข้าใจในอาการเจ็บป่วยของเบียร์ด ดราก้อน ที่ถือได้ว่าเป็นอาการที่พบบ่อย และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กะปอมเคราของสมาชิกต้องสิ้นชีพตักษัย จากพวกเราไปก่อนเวลาอันสมควร
ซึ่งอาการเบื้องต้นของการเจ็บป่วยที่ว่านี้จะเริ่มจากการเบื่ออาหาร กินน้อย น้ำหนักตัวลดลง เริ่มผอม และมักจะหลับตาในตอนกลางวันบ่อยๆ หากทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน ร่างกายจะเริ่มสุดโทรมลงเรื่อยๆจนโคนหางผอมแห้ง ลีบเรียว มีกระดูกปูดโปนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หมดเรี่ยวหมดแรงถึงขนาดฟุบหมอบ และไม่สามารถลืมตาหรือใช้ขาหน้ายันตัวขึ้นมาได้ ซึ่งถ้ามีอาการที่ว่านี้ โดยส่วนมากผู้ที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงกะปอมเคราหรือ สัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ จะสันนิษฐานว่าสัตว์เลี้ยงตัวนี้ติดเชื้อโพรโทซัว เป็นอันดับแรก
ผมจึงจะขอแนะนำยาตัวหนึ่งที่มีคุณประโยชน์มากมาย และได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการรักษาอาการเจ็บป่วยทั้งในคนและสัตว์ ซึ่งยาตัวนี้มีชื่อว่า ยาเมโทรนิดาโซล (Methonidazole) หรือที่เรารู้จักกันอย่างคุ้นหูในนาม "เมโทจิว" (Metrogyl) โดยทั่วไปแล้วเราจะเข้าใจว่ายานี้ใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อโพรโทซัว เพียงอย่างเดียว ซึ่งแท้จริงแล้ว เมโทรนิดาโซล เป็นยาที่มีคุณสมบัติรักษาโรคได้ ครอบคลุมมากกว่าที่เราคิด เป็นยาที่ถือกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) ได้มีผู้ทดลองใช้ยานี้รักษาโรคติดเชื้อพยาธิ “อะมีบา” (ทำให้เกิดโรคฝีบิดในตับ โรคบิดมีตัว และอาการตกขาว) ปรากฏว่าได้ผลดี จึงทำให้ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มามากกว่า 50 ปี
ลองมาดูคุณสมบัติของยาตัวนี้กันครับ
เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ถือเป็นยาปฏิชีวนะ ที่จะออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ซึ่งจะใช้ในการรักษาโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะกับเชื้อแบคทีเรียชนิดที่เจริญเติบโตได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาออกซิเจน (Anaerobic Bacteria) และสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เซลล์เดียวหรือโพรโทซัว (Protozoa Microorganisms) โดยส่วนใหญ่ เมโทรนิดาโซล จะใช้รักษาการติดเชื้อในช่องคลอด ท้อง ผิวหนัง ข้อต่อ และระบบทางเดินหายใจ
ซึ่งยาเมโทรนิดาโซลนี้มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคที่มีสาเหตุจาก
1. เชื้อ Trichomonas ที่ก่อโรคโดยเฉพาะในอวัยวะเพศ เช่น โรคพยาธิช่องคลอด
2. การอักเสบและการติดเชื้อกลุ่มอะมีบาที่มีการติดเชื้อในตับ
3. ใช้ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย กลุ่ม Anaerobic หลังจากการผ่าตัดช่องท้อง หรือผ่า ตัดอวัยวะในระบบสืบพันธุ์
4. รักษาลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิด Clostridium Difficile และเชื้อสัตว์เซลล์เดียวชนิด Giardia Lamblia
5. รักษาการอักเสบและการติดเชื้อในช่องปากและฟัน โดยใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะชนิด Amoxicillin (หมอฟันหลายท่านนิยมจ่ายยานี้ให้กับคนไข้ที่พึ่งผ่าตัดฟันคุดเพื่อลดอาการเจ็บปวดและป้องกันอาการติดเชื้อหลังการผ่าตัด)
6. ใช้ป้องกันการติดเชื้อในแผลผ่าตัดลำไส้ใหญ่ หรือการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ
7. เป็นส่วนผสมในยาทา เพื่อรักษาการติดเชื้อที่ผิวหนังอันเนื่องมาจากเชื้อรา (Fungat ing Wounds) หรือในโรคผิวหนังที่เรียกว่า โรค Rosacea
8. มีการใช้เมโทรนิดาโซลในวงการสัตวแพทย์ เพื่อรักษาการติดเชื้อสัตว์เซลล์เดียวชนิด Giardia ในสุนัข และในแมว รวมไปถึงการติดเชื้อทางเดินลำไส้ในสัตว์ต่างๆอีกด้วย
9. โรคบิดอะมีบา (Amoebiasis) ในระบบทางเดินอาหาร หรือมีอาการติดเชื้อนอกระบบทางเดินอาหาร
10. โรคติดเชื้อในช่องคลอด (Trichomoniasis)
11. การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (Bacterial Vaginosis)
12. ยาทาใช้เฉพาะที่ (เกี่ยวกับผิวหนัง) สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
13. เป็นยาที่มีสรรพคุณรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดเช่นตกขาว เหลืองมีกลิ่นเหม็นตกขาวน้ำตาลหรือตกเขาเขียวฝีหนองตามอวัยวะต่างๆตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เช่น ฝีในสมอง หนองใน ช่องหูส่วนกลาง โพรงหนองที่รากฟัน ฝีในปอด ฝีในท้อง ฯลฯ
ยาเมโทรนิดาโซลออกฤทธิ์ โดยจะซึมเข้าผนังเซลล์ของแบคทีเรีย Anaerobic bacteria และผนังเซลล์ของสัตว์เซลล์เดียวโปรโตซัว จากนั้นยาจะเข้าไปรบกวนการสร้างและการสัง เคราะห์สารทางพันธุกรรม (DNA) ของเชื้อดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถแพร่พันธุ์ได้
ด้วยคุณสมบัติของตัวยานี้ที่ใช้ได้ผลในการรักษาคน จึงมีการนำยานี้มาใช้รักษาสัตว์เช่นกัน
จากข้อ มูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่ายาเทวดานี้มีคุณสมบัติรักษาโรคได้กว้างและครอบคลุมอาการเจ็บป่วยได้หลากหลาย จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมในวงการสัตว์เลื้อยคลานจึงมีการนำยาตัวนี้มาใช้ในการรักสัตว์กันอย่างแพร่หลาย
ซึ่งปริมาณที่เป็นมาตรฐานในการใช้ยานี้กับสัตว์ที่มีอาการเจ็บป่วยคือใช้ยาเมโทรมิดาโซล 0.1 cc ต่อน้ำหนักตัวของสัตว์ 100 กรัม วันละหนึ่งครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลาสามถึงเจ็ดวัน จากประสบการณ์ส่วนตัวหลังจากให้ยานี้จนครบเจ็ดวันแล้วจะไม่ได้มีอาการที่ดีขึ้นในทันที แต่จะกลับมาเริ่มมีแรงและเริ่มกินอาหารได้เองในเวลา 14 วันหลังจากที่เริ่มใช้ยาวันแรก สมาชิกจะต้องใจเย็นๆในการดูแลรักษาและประคองอาการของสัตว์เลี้ยงของท่านซึ่งในระหว่างนี้เราสามารถควบคุมอุณหภูมิของสัตว์เลี้ยงได้ด้วยการกกไฟ พร้อมกับป้อนน้ำตามในปริมาณที่พอเหมาะ และอาจเสริมด้วยอาหารเหลวที่ย่อยง่าย ได้บ้าง อาทิเช่นอาหารเม็ดสำหรับสัตว์เลื้อยคลานนำมาแช่น้ำ ให้อ่อนนุ่มและป้อนวันละสองถึงสามคำเพื่อให้ร่างกายยังได้รับสารอาหาร อยู่แต่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งและห้ามป้อนอาหารมากจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดตายได้ ในเวลาที่สัตว์มีอาการเจ็บป่วยสัตวแพทย์บางท่านแนะนำให้ป้อนไข่ตุ๋นเหลวๆ หรืออาหารสำหรับสัตว์ป่วยโดยเฉพาะที่เรียกว่า Critical Careได้เช่นกัน
แต่ถ้าคนมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้เพื่อให้ได้รับยาเหมาะสมกับเชื้อก่อโรคมากที่สุดและควรหยุดแอลกอฮอล์เมื่อใช้ยานี้
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับสมาชิกทุกๆท่านนะครับ
ปล. ผมเป็นแค่คนเลี้ยงสัตว์ที่พอมีประสบการณ์ในการปฐมพยาบาลสัตว์เบื้องต้นจากการศึกษาข้อมูลจากรุ่นพี่ รุ่นน้อง และข้อมูลทางอินเตอร์เนตเท่านั้น มิใช่นายสัตวแพทย์แต่อย่างใด จึงขอเรียนให้ทราบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเพียงข้อมูลทั่วๆไปที่เกี่ยวกับยาซึ่งใช้ได้ผลในการปฐมพยาบาลสัตว์เบื้องต้นในกรณีที่สมาชิกอยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลสัตว์หรือมีปัญหาฉุกเฉิน เท่านั้น หลังจากที่ท่านได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วควรรีบนำสัตว์เลี้ยงของท่านไปพบนายสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อการวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องและแม่นยำต่อไป
สวัสดี
Bearded Dragons R Us
Bearded Dragons R Us
Credit:
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น